การแจ้งความและการดำเนินคดีทางกฎหมาย
เป็นกระบวนการที่เชื่อมโยงกัน เชื่อมโยงกันอย่างสำคัญในระบบยุติธรรมเพื่อคุ้มครองสิทธิ์ของผู้เสียหาย และสร้างความเป็นธรรมทางสังคม
การแจ้งความคือการที่ผู้เสียหายหรือตัวแทนไปร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานสอบสวน เช่น ตำรวจ เพื่อรายงานการกระทำความผิดที่เกิดขึ้นโดยมีเจตนาให้มีการดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งการแจ้งความเป็นขั้นตอนแรกที่เปิดทางให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายเรียกผู้ต้องหาได้ การแจ้งความต้องระบุข้อเท็จจริงอย่างชัดเจนและครบถ้วน แม้ผู้เสียหายไม่ทราบว่าผิดกฎหมายในข้อหาอะไร เจ้าหน้าที่สอบสวนจะเป็นผู้ชี้แจงในขั้นตอนต่อไป
เมื่อเจ้าหน้าที่สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเรียบร้อยแล้ว จะส่งสำนวนให้กับพนักงานอัยการ เพื่อพิจารณาว่าจะสั่งฟ้องคดีหรือไม่ โดยอัยการอาจมีคำสั่งฟ้อง ส่งคดีต่อศาล หรือยุติคดีหากหลักฐานไม่เพียงพอ การดำเนินคดีจะเข้าสู่ขั้นตอนของศาล ซึ่งศาลจะทำหน้าที่ตัดสินคดีตามคำฟ้องและพยานหลักฐานที่ได้รับ
นอกจากนี้ การดำเนินคดียังแบ่งเป็นคดีอาญาอันยอมความได้ (เช่น หมิ่นประมาท ฉ้อโกง) ที่ผู้เสียหายต้องแจ้งความภายใน 3 เดือน และคดีอาญาแผ่นดินที่รัฐดำเนินการเองได้ แม้ว่าผู้เสียหายจะไม่ร้องทุกข์ก็ตาม
สรุปได้ว่า การแจ้งความเป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินคดีทางกฎหมาย และช่วยเปิดทางให้กระบวนการสอบสวน ฟ้องคดี และพิจารณาคดีในศาลเกิดขึ้นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ผู้เสียหายควรแจ้งความอย่างละเอียดและรวบรวมหลักฐานให้ครบถ้วนเพื่อผลลัพธ์ทางกฎหมายที่ดีที่สุด
แจ้งความถึงตำรวจแห่งชาติด่วน